ท่ามกลางการเติบโตของประชากร นอกจากจำนวนของผู้คน คือ การพัฒนา โดยเฉพาะในมิติของบ้านและที่อยู่อาศัย หนึ่งในปัจจัยสี่ของมนุษย์ ส่งผลให้ตลอดระยะเวลากว่า 1-2 ทศวรรษ โครงการที่อยู่อาศัยผุดขึ้นอย่างมากมาย แต่หนึ่งผลลัพธ์ที่ตามมา หลังความสวยงามจากการออกแบบและตกแต่งบ้าน คือ การใช้พลังงานไฟฟ้าจากเครื่องใช้ไฟฟ้า รวมทั้งสภาพอากาศของไทยที่ร้อนทะลุ 40 องศาเซลเซียสในทุกฤดูร้อน ซึ่งข้อมูลจากสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กระทรวงพลังงาน ตอกย้ำได้เป็นอย่างดีว่า ปริมาณการใช้ไฟฟ้าในภาคครัวเรือนมีอัตราเพิ่มสูงขึ้นทุกปี ยิ่งไปกว่านั้นในสามปีที่ผ่านมามีอัตราการใช้ไฟฟ้าเฉลี่ยประมาณ 43,000 กิกะวัตต์ต่อปี (GWh) หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 1.0 ต่อปี
สำหรับปัจจัยหลักที่ทำให้ผู้อยู่อาศัยใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างกระหน่ำคือความร้อนจากอากาศ โดยผลงานวิจัย การศึกษาอิทธิพลของค่าการสะท้อนรังสีอาทิตย์ ของสีทาผนังต่อการประหยัดพลังงานและอุณหภูมิอากาศในบ้านพักอาศัย จาก ผศ.ดร.พัฒนะ รักความสุข คณะพลังงานสิ่งแวดล้อมและวัสดุ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ระบุว่า ปริมาณไฟฟ้าที่ใช้ภายในอาคารมากกว่าครึ่งถูกใช้ในระบบปรับอากาศ ซึ่งส่งผลให้การใช้พลังงานจากเครื่องปรับอากาศของบ้านพักอาศัยเพิ่มขึ้น โดยวิธีการลดการใช้พลังงานของบ้านพักอาศัย นอกจากการเลือกใช้วัสดุก่อสร้างบ้านที่มีมวลอุณหภาพที่ต่ำที่สามารถกักเก็บและถ่ายเทความร้อนได้ดีแล้ว การลดความร้อนจากบรรยากาศก่อนเข้าสู่ภายในตัวอาคารจึงเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยลดปริมาณการใช้ไฟฟ้าจากการทำงานของเครื่องปรับอากาศได้เป็นอย่างดี
ฉะนั้น สิ่งที่ช่วยสะท้อนรังสีแสงอาทิตย์ (Solar reflectance) ได้เป็นอย่างดีและถือเป็นด่านแรกในการปกป้องบ้าน รวมทั้งยังเป็นวัสดุตกแต่งที่สามารถช่วยให้ที่อยู่อาศัยดูสวยงามได้อย่างโดดเด่น คือ “สีทาบ้าน”
โดยในมิตินี้ คุณจตุภัทร์ ตั้งคารวคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หนึ่งในบริษัทผู้ผลิต ผู้เชี่ยวชาญสีทาอาคารชั้นนำของประเทศไทยและอาเซียน กล่าวเสริมได้อย่างน่าสนใจว่า สีทาผนังอาคารหรือสีทาบ้าน (Paint and Coating) นอกจากจะเป็นวัสดุปกป้องพื้นผิวผนังบ้านจากปัญหาต่างๆ อาทิ ปัญหารั่วซึม รอยแตกร้าว ลอกล่อน เชื้อรา ตะไคร่น้ำ ที่สำคัญยังสามารถช่วยสะท้อนความร้อนจากรังสีแสงอาทิตย์ ช่วยทำให้อุณหภูมิภายในบ้านลดลง หรือจะเรียกว่าเป็นสีที่ช่วยประหยัดพลังงาน ช่วยเซฟค่าไฟฟ้าก็ว่าได้
อย่างไรก็ดี สีทาอาคารที่ได้รับการพัฒนา ยังสอดคล้องกับการทำงานของภาครัฐ ที่ได้มีการออกมาตรการกำกับและควบคุมผลิตภัณฑ์สีทาผนังอาคาร เกี่ยวกับเรื่องการสะท้อนความร้อนจากแสงอาทิตย์ เพื่อช่วยประหยัดพลังงาน เช่น มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม มอก.2321-2549 (สีอิมัลชันทนสภาวะอากาศ) หรือ มอก.2514-2553 (สีอิมัลชันลดความร้อนจากแสงอาทิตย์) โดยสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม
รวมทั้งกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน ยังได้มีการออกฉลากประหยัดพลังงานประสิทธิภาพสูงเบอร์ 5 ให้กับผลิตภัณฑ์สีทาผนังอาคาร โดยต้องมีค่าการสะท้อนรังสีแสงอาทิตย์ (Solar Radiation Reflectance) ที่มากกว่าหรือเทียบเท่าร้อยละ 80 เพื่อเป็นเครื่องมือช่วยให้ประชาชนเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งจะสามารถช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงงานได้ โดยทีโอเอได้ดำเนินการพัฒนา ทั้งการคิดค้นนวัตกรรมสีประหยัดพลังงาน รวมทั้งบูรณาการทีมงานบุคลากรอย่างแข็งขัน ผลิตและสร้างสรรค์ คือ ‘สีซุปเปอร์ชิลด์ (SuperShield)’ ภายใต้แนวคิด ‘นวัตกรรมสีประหยัดพลังงาน (Energy Saving Coating)
สีซุปเปอร์ชิลด์ (SuperShield) เป็นผลิตภัณฑ์สีน้ำทาอาคารอะคริลิกแท้ 100% สำหรับใช้ภายนอก เกรดพรีเมี่ยมคุณภาพสูงสุด นำเสนอจุดเด่นด้าน Functional benefits เรื่องความทนทานนาน 15 ปี สะท้อนความร้อน และประหยัดพลังงาน ช่วยเซฟค่าไฟฟ้าได้จริง ด้วยคุณสมบัติพิเศษของนวัตกรรมไทเทเนียม 3 ชั้น เอกสิทธิ์เฉพาะ สีทีโอเอ จึงช่วยสะท้อนรังสีแสงอาทิตย์ได้สูงถึง 96.7% เหนือกว่าเกณฑ์มาตรฐานของฉลากประหยัดพลังงานประสิทธิภาพสูงเบอร์ 5 ที่กำหนดไว้ที่ 80% ทำให้ป้องกันความร้อนและประหยัดพลังงานมากยิ่งขึ้น ผ่านการนำเสนอผ่านพรีเซ็นเตอร์หนุ่มหล่อมากความสามารถ กันต์-กันตถาวร จนสามารถสร้างการจดจำแบรนด์ให้กับผู้บริโภคได้อย่างมาก ในแคมเปญการตลาดอย่าง “สีสารพัดกัน”
ซึ่งจากผลการทดสอบโดยผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงาน สำนักวิจัยและบริการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สวท.) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี โดยการคำนวณหาค่าพลังงานผ่านโปรแกรม Design Builder 5.2 ที่มีการเปรียบเทียบการใช้พลังงานระหว่างบ้านที่ทาสีผนังกับหลังคาด้วยผลิตภัณฑ์สีที่มีส่วนผสมของเทคโนโลยี Ti-Pure Titanium Triple Protection กับบ้านที่ทาด้วยผลิตภัณฑ์สีทั่วไป ภายในสภาวะการใช้งานปกติ (เปิดแอร์ที่อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียสเฉพาะช่วงกลางคืน – ช่วงเช้า) พบว่าบ้านที่ทาด้วยสีที่มีส่วนผสมของเทคโนโลยี Ti-Pure Titanium Triple Protection สามารถช่วยทำให้บ้านเย็นลงและช่วยประหยัดค่าไฟได้จริง เนื่องจากเทคโนโลยีไททาเนียม 3 ชั้น สามารถป้องกันความร้อนจากแสงแดดในช่วงเวลากลางวัน และลดอุณหภูมิความร้อนที่เกิดจากการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านลงได้ถึง 5.5 องศาเซลเซียส ทำให้การเปิดใช้เครื่องปรับอากาศในเวลากลางคืน ทำงานไม่หนักจนเกินไป
สำหรับผลลัพธ์ที่ได้ช่วยประหยัดพลังงานได้ถึง 27.5 เปอร์เซ็นต์ หรือช่วยเซฟค่าไฟได้ถึง 9,445 บาทต่อปี ตามเกณฑ์การประเมินขอรับรองอาคารเขียว มาตรฐานของ L.E.E.D. หรือ Leadership in Energy & Environmental Design จากประเทศสหรัฐอเมริกา ว่ามีการก่อสร้างและใช้วัสดุอุปกรณ์ที่ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ดังนั้น ผู้บริโภคจึงมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์สีซุปเปอร์ชิลด์เป็นสีทาภายนอกตัวจริง ที่คงคุณสมบัติและประสิทธิภาพด้านความทนทาน คุ้มค่า ช่วยสะท้อนความร้อน และประหยัดพลังงานสูงสุด
ถือได้ว่า สีซุปเปอร์ชิลด์ (SuperShield) เป็นหนึ่งทางเลือกสำหรับการอยู่อาศัยยุคใหม่ได้อย่างลงตัว เพราะโดดเด่นการปกป้อง ประหยัดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมได้อย่างสมดุล